ชีวิตที่น่าเศร้า......ของหมาเน่าที่ลอยตามน้ำ - นิยาย ชีวิตที่น่าเศร้า......ของหมาเน่าที่ลอยตามน้ำ : Dek-D.com - Writer
×

    ชีวิตที่น่าเศร้า......ของหมาเน่าที่ลอยตามน้ำ

    มันไม่รู้จะเขียนยังไงให้ใครๆสนใจเข้ามาอ่านเรื่องที่เราเขียน เอาเป็นว่าถ้าคุณเคยดูหนังเรื่อง แฟนฉัน นั้นแหล่ะครับนิยายที่ผมเขียนสไตล์นั้นเลย ย้อนยุคไปกับเด็กชายสุดเจ๋อคนหนึ่ง

    ผู้เข้าชมรวม

    154

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    154

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  18 ต.ค. 60 / 20:44 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



    ชีวิตที่น่าเศร้าของหมาเน่าที่ลอยตามน้ำ

    ตอน" ความทรงจำสีจางๆ "

    เช้าวันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2558 ที่อากาศร้อนมากๆ ผมได้รับแท็กจากเพื่อนเก่าของผมคนหนึ่ง
     ที่แสดงถึงการเป็นเพื่อนกันในเฟสครบสามปี  พร้อมกับข้อความบนภาพว่า

    " จริงๆแล้วความสัมพันธ์ของเรามีมากกว่านี้นะ. ( เขิล จัง ) "

    เพื่อนผมคนนี้มันชื่อ เอนก บางสี ที่ปัจจุบันทำงานขับแท็กซี่อยู่ในกรุงเทพ มีครอบครัวเล็กๆน่ารัก อยู่ด้วยกันที่นั้น ส่วนผมก็เป็นลูกจ้างกับงานที่โครตหน้าเบื่อ ในร้านขายอะไหล่แทรคเตอร์แห่งหนึ่งในอุดร อาศัยอยู่บ้านแม่ยายกับชีวิตที่น่าอับเฉา หาอนาคตอนางออะไรไม่ได้ทั้งที่อายุก็ปาเข้าไป40กว่าปีแล้ว
     
    สิ่งที่มันแท็กมา สำหรับคนอื่นคงไม่มีอะไร แต่สำหรับผม มันทำให้ผมเกิดจินตนาการกลับไปในอดีตด้วยคำที่มันโพสไว้ คำที่ทำให้ผมฟินคำนั้น " จริงๆแล้วความสัมพันธ์ของเรามีมากกว่านี้นะ. ( เขิล จัง ) "

    หลายคนเห็นแท็กนี้แล้ว อาจจะคิดทะลึ่งๆว่า เราเคยแอบได้เสียกันเองหรือเปล่า ความจริงแล้วมันไม่ไช่ ถึงแม้ผมเคยคิดไปบ้างก็ตาม แต่มีคำหนึ่งที่  ไช่ !!!! คือ " ความสัมพันธุ์ของเราทั้งคู่............มันนานกว่านั้น " แต่มันก็ไม่ไช่แค่มัน ความจริงแล้วมันรวมถึงเพื่อนเก่าๆในวัยเรียนผมคนอื่นๆด้วย ที่เราเจอกันในเฟส ทั้ง

    ไอ้กุล...อดีตประธานนักเรียน ที่ร่ำรวยตั้งแต่วัยรุ่น เดี๋ยวนี้กลายเป็นเจ้าของกาแฟเด่นชัยไปแล้ว
    ไอ้รณ...จอมวีนในวัยเยาว์
    ไอ้โฉ.....เด็กที่น่าอิจฉาที่สุดในหมู่บ้าน เพราะบ้านมันรวยม๊ากกกรวยที่สุดในชุมชนเลยก็ว่าได้
    ไอ้จิ....ที่มันเป็นญาติกับไอ้โฉ ,ไอ้รณ,อาจารย์คีย์ เป็นกลุ่มลูกคนจีนในหมู่บ้าน
    ไอ้หมู....เพื่อนรุ่นพี่ขาหื่น มันจะทำตัวเป็นลูกพี่พวกเราตลอด มีความเป็นผู้นำสุงโดยเแพาะเรื่องห่ามๆแต่เราก็หยวนๆเพราะมันก็คือเพื่อนคนหนึ่ง
     
    อ.คีย์.....มาดหจ๋องๆในตอนเด็กปัจจุบันกลายเป็นครูสอนหนังสือให้เด็กในจังหวัดพิจิตร
    ไอ้ตุ่น...ขุนเข่าไร้น้ำใจ...ที่ครั้งหนึ่งมันเป็นคนเดียวในชีวิตที่ผมพลาดท่าให้มันจนมึนไปทั้งวันมาแล้ว
    ไอ้เอก...เด็กเจ้าน้ำตาในอดีตที่ผมค่อยปลอบใจมันตลอด ด้วยความที่กลัวมันจะโดนรังแกผมจะชวนมันไปใหนมาใหนด้วยตลอด
     ไอ้น่ะ........เด็กบ้านรวยอีกคนที่มันเป็นเสมือนธนาคารประจำกลุ่ม เงินที่มันเอามาโรงเรียนเลี้ยงเพื่อนได้ทั้งห้อง

    ไอ้ดา......ปรีดา ทองคมขำ ที่บ้านอยู่ข้างไอ้เหนก ทุกครั้งที่มันมาหาพวกผม มันจะมีขนมถ้วยฟูร้อนที่อร่อยที่สุดในโลก ติดมือมาด้วยตลอด


    รวมถึงคนอื่น นก เรณู ,เอ๋ สำอางค์ ,ไอ้เจิด,ไอ้ชาติ สุชาติ อัมพร,ไอ้หน่อย สุวรรณ ศรีเผือด ,ไอ้เผือก ,ไอ้วิน โกวิน เพ็งยามเช้า ที่ยังติดต่อกันทางเฟสบุ๊คอยู่ในปัจจุบัน และความจริงผมก็ยังพยายามตามหาคนอื่นๆอยู่ แต่แท็กของไอ้เหนก มันทำให้ผมนึกถึงครั้งแรกที่ผมเจอมัน ภาพตอนนั้นยังอยู่ในหัวของผมมาจนทุกวันนี้ เพราะ........" มันคือเพื่อนคนแรกในชีวิตของผม "


    ความจริงผมและครอบครัวไม่ไช่คนสุโขทัยแท้ๆหรอก ครอบครัวผมความจริงเป็นชาวสิงห์บุรี บ้านโพธิ์หอม อ.บางระจัน แม่ได้อพยพย้ายเข้ามาอยู่ตำบลเล็กๆตำบลหนึ่งใกล้ๆจังหวัดพิษณุโลก ที่ชื่อว่าต.บ้านใหม่สุขเกษม อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย เหมือนคนในหมู่บ้านเกือบทั้งหมด ไม่ไช่คนสุโขทัยแท้ๆ แม่ย้ายตามพี่ชายคือลุงเหี้ยม และพี่สาวคือป้าหิงที่ย้ายมาดูสถานทีก่อนนั้นแล้ว พอเห็นที่ดิน ที่พอซื้อได้

    ป้าหิงจึงกลับสิงห์บุรี เพื่อขอขายที่นาในส่วนของแม่ผมที่ยังเด็กอยู่ เพื่อนำเงินมาซื้อที่ดินที่สุโขทัยแล้วจัดสรรแบ่งบันกัน เมื่อตากับยายตัดสินใจขายที่ดิน แล้วอพยพครอบครัวลงมาอยู่สุโขทัยตามป้าและลุง แม่ผมมาอยู่สุโขมัยตั้งแต่เด็กๆ จนโตแต่งงานกับพ่อผม มีผมและน้องชายที่ชื่อหนุ่ม อายุห่างจากผมเพียง 2ปี

    ตอนเด็กผมจำได้ป้าหิงมีลูก3คน คือพี่ชัย พี่เกียรติ พี่หมาย พี่ชัยที่พวกผมเห็นแกจะเป็นนักเลงพอตัว จนสุดท้ายแกก็สร้างเรื่องให้ป้าจนได้เมื่อพี่ชัยโมโหที่ขอเงินลุงไปซื้อมอเตอรืไซคืแต่ลุงหวิงไม่ให้ แก่เลยไปยิงเพื่อนตายเพื่อปล้นรถแล้วหลบหนึ หลังจากนั้นพี่ชัยก็สร้างชื่อให้เรื่องปล้นเสมอมาในระแหวกหมู่บ้าน เช่นปล้นรถทัวร์ จนทางการส่งตำรวจมาตามจับพี่ชัย ผมยังจำติดตาทุกวันนี้คือภาพ ผมกับไอ้หนุ่มนั่งหย่อนขาอยู่หน้าบ้าน

    อยู่ดีๆก็เห็นผู้ชาย ใส่กางเกงยีนส์ ใส่เสื้อสเก็ตฟิล์มสีเขียว อย่างกับกองกำลังอะไรสักอย่างเดินออกมาจากป่าอีกฝั่งถนน แล้วเดินเข้ามาในบ้านลุงผมบางคนก็แบกปืนลูกซอง บางคนก็ถือปืนเอ็ม 16 ไช่แล้วเขาคือ พี่ชัยลูกป้าผม ที่หนีคดีอยู่นี่เอง พี่ชัยที่กลายเป็น เสือชัยที่โด่งดังไปแล้ว ทั้ง 5 คนรีบเดินเข้าบ้านสักพักก็มีรถตำรวจวิ่งมาจอดหน้าบ้านลุง ก่อนจะมีตำรวจวิ่งถือปืนเข้ามาในบ้าน เพื่อจะจับเสือชัยพี่ผม

    แต่เขาก็ไม่เจอเสือชัยที่หนีออกทางหลังบ้านไปแล้ว พี่ชัยแอบกลับมานอนบ้านบ่อยมาก แกมีของเวลาเมาของจะขึ้นตลอด เวลาของขึ้นแกสามารถกระโดดลงมาจากชั้นสองได้คล่องแตล้วอย่างกับเป็นเสือ เสาที่วีสมัยนั้นเป็นแค่แป็บยาวๆแกยังปีนขึ้นไปข้างบนได้ แกโดนทางการรังควานอย่างหนัก สุดท้ายพี่ชัยตัดสินหนีไปกบดานอยู่กับญาติที่สิงห์บุรีและปิดตำนานเสือร้ายลงที่นั้น


    พ่อกับแม่แต่งงานกันไม่กี่ปีก็เกิดเรื่องราวให้บาดหมางจนต้องเลิกลา ให้ฟ้องหย่ากัน
    สุดท้ายผมกับน้องชายและแม่ก็ต้องอยู่กันลำพัง เราเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน ตอนเด็กผมจำได้  แม่ผมเวลาไปในทุ่งในนาจะเอาผมสองพี่น้องใส่กะบุงแล้วหาบผมไปด้วยทุกที บางทีแม่หาบเราสองพี่น้องเดินเป็น 10 กิโล

    ตอนที่พ่อทิ้งเราไปแม่ก้เริ่มเป็นหนี้คนเยอะมาก ผมยังจำถึงภาพแม่หลั่งน้ำตาท้อแท้กับชิวิตได้ติดตามาจนทุกวันนี้ ในยามที่ถูกเจ้าหนึ้มาทวงหนี้ แล้วแม่ไม่มีเงินให้เขาสักบาท ใต้ต้นมะม่วงมันหน้าบ้านลุงเหี้ยมต้นนั้น

    ตอนเด็กนอกจากผมกับไอ้หนุ่มน้องผมแล้ว เราก็ยังมีญาติที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันอีกทั้ง แอน ลุกป้าอิํด  พี่ดาวและเอ ลูกลุงเหี้ยม นอกจากนั้นก็ยังเพื่อนรุ่นพี่ที่ความจริงเป็นญาติที่ห่ามมากๆอย่างไอ้หลาด ลูกป้าพิมพ์ ขาลุยตัวจริง ทั้งตีลังกา ทั้งพาผมทำระเบิดขวดก็มันทั้งนั้น เรื่องห่ามขี่ควาย ขี่ม้า ทำปืน ทำดาบ ก็มีแต่มัน มันเป็นเพื่อนเล่นที่สนิทมาก แต่เอาเข้าจริงคนเหล่านี้ก็คือญาติ ผมคิดอย่างนั้นตลอด ผมไม่เคยมองว่าเป็นเพื่อนเล่น



    จนอายุผมน่าจะสัก 6-7 ขวบพ่อก็ต้องมาเลิกลาไปคนล่ะทิศล่ะทางกับแม่ ผมไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับความบาดหมางของทั้งพ่อและแม่ ไม่อยากถามให้มันรู้สึกเจ็บปวด รู้แต่ว่าวันนั้นมีเสียงคนด่ากันเสียงดังมาก ทั้งเสียงแม่ เสียงลุง แล้วก็เห็นพ่อเอาปืนลูกซองมายิงขึ้นฟ้าตรงหน้าบ้าน จนลุงหวิงตะโกนบอกให้ผมและไอ้หนุ่มไปหลบในบ้านจากนั้นเราก็ไม่เห็นอะไรอีกเลย

    ความสัมพันธุ์ฉันสามีภรรยา ของพ่อกับแม่ผมจบในคืนนั้น แม่ฟ้องขอหย่ากับพ่อ แต่พ่อไม่ยอมหย่า เราถูกยาติเรียกว่าไอ้ลูกกำพร้านับตั้งแต่นั้น แม่ครองตัวเป็นโสดนานมาก แล้วก็ทิ้งผมสองคนพี่น้องไว้กับป้าหิงและลุงหวิง เพื่อไปทำงานต่างจังหวัดไกลๆ บ้านไม้หลังใหญ่เรานอนกันสองคนพี่น้อง

    แล้วไม่นานแม่ก็มีพ่อใหม่ ให้พวกผม เพราะแม่เลี้ยงพวกผมสองคนไม่ไหว ผมไม่เคยเสียใจน่ะที่แม่มีแฟนใหม่ เขาชื่อตารอง มีลูกติดมาหนึ่งคนจากกรุงเทพ เขาเป็นดาราตัวประกอบ ผมแค่อยากให้แม่ผมมีความสุขกับชีวิตคู่กับเขาบ้างจึงไม่อยากขัดใจแม่ แต่ดูเหมือนผมกับลูกตารองจะเข้ากันกับผมสองพี่น้องไม่ได้หลังจากเราโดนแกล้งอย่างหนัก

    แม่กับตารองอยู้ด้วยกันได้ไม่นาน ไม่กี่เดือน รู้สึกเราจะทำไร่แตงโมกันพอถึงหน้าเก็บเกี่ยวเสร็จตารองอาสาจะเอาเงินไปฝากธนาคารให้แม่ในตัวจังหวัดพิดโลก 40,000บาท แต่สุดท้ายเขาก็เอาเงินหนีเรากลับกรุงเทพไปแล้วไม่กลับมาหาแม่ผมอีกเลย 

    แม่ผมเป็นโสดอยู่พักหนึ่งก็มีหนุ่มที่อายุน้อยกว่าอีกหมู่บ้านมาสู่ขอ เขาชื่อตาแก้ว เขาเป็นคนพูดจาดี พูดเพราะ หลายคนชอบเขา หลายที่รู้ทันก็จะไม่ชอบเขาและไม่ไว้ใจ เรามีที่นาอยู่14ไร่ อีก2หมู่บ้านถัดไปทางพิดโลก ที่นั้นติดกับนาลุงเหี้ยม และมีปลาน้ำจืดที่ชุกชุมมาก ติดคลองชลประทาน ที่มีกุ้งฝอยเยอะมาก เมื่อยามหน้านาเรา3คน แม่ลูก รวมไปถึงตาแก้ว พ่อเลี้ยงคนใหม่ของผมจะไปนอนที่กระท่อมทางเข้านา

    เราแทบไม่อดอยาก อาหารตามธรรมชาติเพียบมาก ปลามีให้กินทุกวัน เราทำบ่อโจรดักปลา ตาแก้วพ่อเลี้ยงของผม เขาจับปลาเก่งมาก กุ้งฝอยลอยอยู่ในคลองชลประธานเยอะมากจนแม่ไปซ้อนมาด้วยสวิง เอามชุปแป้งหอดอร่อยมากๆ

    ส่วนตาแก้ว เขาก็จะไปทอดแห วางข่ายดักปลา หรือไปดักไซ ยิงนก ดักหนูนา มันเป็นชีวิตที่ทุกวันนี้ผมยังไม่มีโอกาสกลับไปมีความสุขอย่างนั้นได้อีกเลย มีบ้างช่วงแม่ผมไปเช่าที่ดินทำไร่แตงโม สมัยนั้นแถวสุโขทัยยังทำนาแค่ปีล่ะ2ครั้ง ช่วงหน้าหนาวหลายบ้านเปลี่ยนไป

    ทำไรสวนผสม หลายคนปลูกแตงกวา ข้าวโพด คะน้า กระหล่ำ แต่บ้านผมเลือกปลุกแตงโมใกล้ๆกันกับไร่แตงโมของป้าหิง ทุกตี4ถึงตี5 แม่กับตาแก้วพ่อเลี้ยงของผม จะออกไปรดน้ำแตงทุกวันไร่แตงสมัยก่อนไร่แตงโม จะถูกทำให้มีร่องน้ำผ่านสำหรับให้มีน้ำไว้รดต้นแตง


    จนผมถึงวัยต้องเข้าโรงเรียนตามเกณฑ์

    ในฐานะนักเรียนใหม่ชั้นป.1 โรงเรียนบ้านใหม่สุขเกษม อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย วันแรกของชีวิตเด็กนักเรียนที่แม่พาผมไปส่งโรงเรียน วันแรกสำหรับผมความทรางจำสีจางๆ มันถูกบันทึกให้จดจำเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่แม่แนะนำให้รู้จัก แม่ผมกับแม่มัน เป็นเพื่อนกัน เรามีพ่อชื่อเหมือนกัน เด็กผู้ชายที่ยืนเรียบร้อยอยู่ข้างแม่ตัวเอง ไอ้เด็กดำๆหน้าเจ๋อๆ ที่ตอนนั้นมันสุงกว่าผมไม่เท่าไร่เอง และเรียกตัวเองว่า หนู ทั้งที่มันตัวเบ้อเร่อ แต่งตัวเรียบร้อย ผมเองก็ยังไม่รู้จักใครมากนักในห้องเรียน ทุกคนหน้าใหม่สำหรับผม ผมไม่รู้จักใครเลย ถึงแม้จะมีคนรู้จักผมเพราะผมเคยมีพ่อเลี้ยงเป็นดารา และด้วยนิสัยของผมจะไม่เข้าหาใครก่อนยกเว้นมัน ทุกเที่ยงผมจะกินข้าวกับมันสองคน ไปใหนไปด้วยกัน ใครจะเชื่อมันกลายเป็นเพื่อนคนเดียวที่ผมคบมายาวนานที่สุดจนทุกวันนี้



    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น